Egeskov Castle, Denmark 🇩🇰

Egeskov Castle, Denmark (ฺปราสาทเอเกสกอฟ ประเทศเดนมาร์ก)

Disclaimer: This article is bilingual. The content will be presented first in English, followed by the Thai translation. (บทความนี้เป็นบทความสองภาษา จะเริ่มด้วยเนื้อหาภาษาอังกฤษก่อน และตามด้วยเนื้อหาภาษาไทย)

General Information:

• Location: Kværndrup, Funen (Fyn Island), Region of Southern Denmark (Syddanmark), Denmark

• Year Built: 1554 (In 2025, the castle is 471 years old)

• Style: Renaissance water castle

• Founder/Original Owner: Frands Brockenhuus (who built the castle in its present form, having obtained the land through marriage with Anne Tinhuus)

• Purpose of Construction: A noble residence fortified with defensive features, serving both as a manor for the noble family and as a stronghold during times of unrest (after the Count’s Feud and the Reformation). In the past, it could only be accessed via a drawbridge, as it stood in the middle of a lake/moat.

• Number of Rooms: Approximately 66 rooms

Visitor Information

• Opening Hours: Open daily from 10:00 AM – 5:00 PM (opening hours vary by season, please check the website)

• Admission Fee: Adults 265 DKK (approx. 1,320 THB)

• Website: https://egeskov.dk/en

Highlights of Egeskov Castle:

• According to local legend, the name Egeskov (“oak forest”) comes from the massive oak piles used to support the castle’s foundation (Ege = oak, skov = forest). The castle was built on oak pilings sunk into the mud and lakebed.

• Built during a time when Danish nobles fortified their residences due to political unrest (such as the aftermath of the Count’s Feud), giving it a unique blend of manor house and fortress.

• The estate dates back to the 15th century, but the present castle was built by Frands Brockenhuus. It later passed through several noble families, including the Bille-Brahe family, who owned it until the late 18th century.

• One of the oldest and best-preserved Renaissance water castles in Europe.

• The grounds include museums and exhibitions, such as a classic car and motorcycle museum, a firefighting and emergency vehicle museum, and Titania’s Palace — a famous dollhouse.

• Today, the castle is still a residence of the Ahlefeldt-Laurvig-Bille family, while also functioning as a museum open to the public.

ข้อมูลทั่วไป:

• สถานที่ตั้ง: เมือง Kværndrup, เกาะ Funen (Fyn), มณฑล/ภูมิภาค Region of Southern Denmark (Syddanmark), ประเทศเดนมาร์ก
• ก่อสร้างในปี: 1554 (ในปี 2025 บ้านหลังนี้มีอายุ 471 ปี)
• สไตล์ของบ้าน: ปราสาทน้ำสมัยเรอเนสซองส์ (Renaissance water castle)
• เจ้าของบ้าน (ผู้ริเริ่มสร้าง): Frands Brockenhuus (ผู้ริเริ่มสร้างปราสาทตามแบบที่เห็นในปัจจุบัน โดยได้ที่ดินผ่านการแต่งงานกับ Anne Tinhuus)
• วัตถุประสงค์ที่สร้าง: ที่อยู่อาศัยของขุนนางที่ถมด้วยป้อมปราการ และเป็นคฤหาสน์สำหรับครอบครัวขุนนางและฐานที่มั่นในยุคความไม่สงบ (หลังสงครามภายใน Count’s Feud และช่วงการปฏิรูปศาสนา) ในอดีตเข้าถึงได้เฉพาะโดยสะพานยก (drawbridge) เพราะตั้งอยู่กลางสระ/คูน้ำ
• จำนวนห้อง: ประมาณ 66 ห้อง 

ข้อมูลสำหรับการไปเยี่ยมชม:

• เวลาเปิดเข้าชม: เปิดทุกวัน เวลา 10.00 - 17.00 น. (ช่วงเวลาเปิดจะแตกต่างกันแต่ละฤดูกาล โปรดเช็คในเว็บไซต์)
• ค่าเข้า: ผู้ใหญ่ ราคา 265 โครนเดนมาร์ก (ประมาณ 1,320 บาท) 
• Website: https://egeskov.dk/en

จุดสนใจของสถานที่นี้:

• ตามตำนานท้องถิ่น ชื่อ Egeskov มาจากการใช้เสาไม้โอ๊คจำนวนมากเป็นฐานรองรับพื้นปราสาท (คำว่า Ege = oak, skov = forest) ปราสาทสร้างบนหลักไม้โอ๊คจมในโคลน/ทะเลสาบ
• สร้างขึ้นในยุคที่ขุนนางเดนมาร์กนิยมสร้างที่อยู่อาศัยที่มีองค์ประกอบป้องกันเพราะความไม่สงบทางการเมือง (เช่น ผลหลังจาก Count’s Feud) จึงมีลักษณะแบบป้อมปราการผสมบ้านใหญ่
• ต้นกำเนิดทรัพย์สินกล่าวถึงตั้งแต่ศตวรรษที่ 15 แต่ ตัวปราสาทปัจจุบันสร้างโดย Frands Brockenhuus ต่อมาตระกูลขุนนางหลายตระกูลเป็นเจ้าของสืบต่อ ครอบครัว Bille-Brahe ถือครองต่อเนื่องมาจนถึงปลายศตวรรษที่ 18 
• ปราสาทน้ำที่เก่าและได้รับการอนุรักษ์ดีมาก ถือเป็นหนึ่งในปราสาทน้ำเรอเนสซองส์ที่เก็บสมบูรณ์ที่สุดในยุโรป
• พิพิธภัณฑ์และนิทรรศการในบริเวณ (เช่น พิพิธภัณฑ์รถคลาสสิก/รถมอเตอร์ไซค์, พิพิธภัณฑ์ดับเพลิงและยานพาหนะฉุกเฉิน, Titania’s Palace — บ้านตุ๊กตาในตำนาน ฯลฯ)
• ปัจจุบันปราสาทเป็นที่อยู่อาศัยของตระกูล Ahlefeldt-Laurvig-Bille และปัจจุบันก็เปิดให้เป็นพิพิธภัณฑ์ให้คนทั่วไปเข้าชมได้